วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

child of light รีวิว


          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วองค์หญิงน้อยนามออโรร่า(Aurora)  ผู้ซึ่งซึ่งจู่ๆก็ขอโบกมือลาโลก(ตาย) แต่ลาแล้วไม่ลาลับ ดันไปโผล่อีกดินแดนหนึ่งที่ไม่รู้จัก และฟื้นขึ้นมาใหม่ในนาม เจ้าหญิงแห่งแสง ในดินแดนแห่งนี้ถูกยึดครองและปกครองโดย ราชินีแห่งความมืดผู้ชั่วร้าย ผู้ดูดกลืนทุกแสงสว่าง ผู้ซึ่งทำให้ ดวงดาว ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ หายไปตลอดกาล ทางเดียวที่จะช่วยอาณาจักรได้ ก็คือการนำแสงทั้งสามกลับคืนมา การผจญภัยเพื่อช่วยอาณาจักรและหาทางกลับบ้าน จึงเริ่มต้นขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา
     

          child of light  ผลงานจากสตูดิโอ  ubisoft montreal  ที่สร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งเรียกได้ว่า "เป็นงานศิลป์ชั้นเยี่ยมได้เต็มปากเต็มคำกว่าเกมชั้นยอด"  ในส่วนแนวเกม จะเป็นแนว 2D ,Rpg ผสมกับ Turn base ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป และพล็อตเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่จากเกมแนวนี้ที่มีอยู่ก่อนน่านี้อีกหลากหลายเกมด้วย  แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่างและเป็นตัวชูโรงสำหรับเกมนี้เลยก็ว่าได้ มันคือภาพกราฟฟิคลายเส้นที่สวยงามรวมเข้ากับเสียงดนตรีและเสียงประกอบที่เข้ากันอย่างลงตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ เรียกได้ว่า หาไม่ได้จากเกมอื่นแน่นอน

          "มันไม่ใช่แค่เกม แต่มันคืองานศิลป์"   ฉากแต่ละฉากรวมถึงสถานที่ต่างๆ ภายในเกม ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างปราณีตและกลมกลืน แสดงถึงความตั้งใจของทีมงานเป็นอย่างดี อีกทั้งตัวละครของเราสามารถร่อนไปได้ทั่วทั้งฉาก ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความละเอียดในการเก็บรายละเอียดของสิ่งต่างๆที่ประกอบอยู่ในฉาก แม้กระทั่งในบ้านหลังเล็กที่ไม่สำคัญอะไร ก็ยังเก็บรายละเอียดได้อย่างทีเยี่ยม




ความต้องการระบบ

ขั้นต่ำ: 
ระบบปฏิบัติการ: Windows Vista, Windows 7 SP1, Windows 8/8.1 (32/64bit versions)
หน่วยประมวลผล: Intel Core2Duo E8200 @ 2.6 GHz or AMD Athlon II X2 240 @ 2.8 GHz
หน่วยความจำ: แรม 2 GB
กราฟิก: nVidia GeForce 8800 GT or AMD Radeon HD2900 XT (512MB VRAM with Shader Model 4.0 or higher)
DirectX: เวอร์ชัน 9.0c
เครือข่าย: การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์

หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 3 GB

แนะนำ: 
ระบบปฏิบัติการ: Windows Vista, Windows 7 SP1, Windows 8/8.1 (32/64bit versions)
หน่วยประมวลผล: Intel Core2Quad Q8400 @ 2.6 GHz or AMD Athlon II X4 620 @ 2.6 GHz
หน่วยความจำ: แรม 4 GB
กราฟิก: nVidia GeForce GTX260 or AMD Radeon HD4870 (512MB VRAM with Shader Model 4.0 or higher)
DirectX: เวอร์ชัน 9.0c
หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 3 GB
การ์ดเสียง: DirectX Compatible Sound Card with latest drivers

             เรียกว่าเครื่องไม่ต้องแรง......ก็แซงทางโค้งได้


          มาถึงเรื่องระบบของเกมกันบ้าง  เกมจะเป็นแนว Rpg - pizzle adventure ผสม TBS Turn-Base Strategy  ตามแบบฉบับเท่าๆไป โดยเราจะสามารถบังคับองค์น้อยออโรร่า ได้โดยการใช้คีย์บอร์ดและบังคับ ท่านเซอร์หิ่งห้อยซึ่งเกิดจากหยดน้ำตาของเรา ผู้ที่อ้างตัวว่าตัวเองไม่ใช่ลูกไฟวิญญาณ(เอ็งนั่นแหละมันลูกไฟวิญญาณ มันหิ่งห้อยตรงไหน) จะสามารถบังคับได้โดยการใช้เม้าส์  ในเกมมีระบบการแพ้ชนะธาตุ เรียงตามลำดับได้ประมาณนี้   สายฟ้า>>>น้ำ>>>ไฟ>>>ดิน>>>สายฟ้า และ มีธาตุความมืดที่ชนะได้ทุกธาตุแต่แพ้ธาตุแสง(เป็นหน้าที่ขององค์หญิงนั่นเอง เพราะมีแค่องค์หญิงที่สกิลเป็นธาตุแสง)เราจะสามารถใส่ธาตุให้เกราะหรืออาวุธได้ โดยการยัดหินธาตุนั่นแหละ สไตล์เดิมๆ เพิ่มเติมคือขี้เกียจหาหิน

ท่านเซอร์หิ่งห้อย

          เรื่องระบบสเตตัสและอุปกรณ์สวมใส่ เป็นอะไรที่แย่มาก  ตัวละครของเราแต่ละตัว เมื่อ เลเวลอัพ เรามีสิทธิ์แค่ อัพสกิลเท่านั้น แถมสกิลยังของบางตัวละครยังห่วยได้อย่างเหลือเชื่อแถมมีความสามารถซ้ำกันด้วย (เอาเข้าไป)   อุปกรณ์ที่สวมใส่ บอกเลยว่า เกมนี้ ไม่มี!! เป็นของติดตัวของแต่ละตัวมาเลย ไม่มีให้เก็บ และไม่มีให้เปลี่ยน!! ถึงกับไปไม่ถูกเลย  เกมเก็บเลเวล ตีบอส แต่ไม่มีของให้เลือกใส่

ระบบสเตตัสและสกิล
         
          มาต่อกันที่ระบบ battle กันบ้าง  เมื่อเข้าสู่โหมดต่อสู้แบบ TBS (ผลัดกันตีนั่นเอง) ฝั่งศัตรูจะมีได้ทั้งหมด 3. ตัว  ส่วนฝั่งเราจะยืนได้แค่ 2 ตัวเท่านั้น(อาจจะนับเป็น 3 นับเซอร์หิ่งห้อยด้วย)  โดยการจะโจมตีแต่ละท่าจะใช้คูลดาวน์ไม่เท่ากัน ทำให้มีแถบวิ่งเป็นแถบเวลาเพิ่มขึ้นมาด้านล่าง มีไว้เพื่อบอกเป็นนัยว่าจะถึงรอบตัวไหนได้โจมตี  ท่านเซอร์หิ่งห้อยเราก็ยังไม่หมดประโยชน์ซะทีเดียว สิ่งเดียวที่ทำได้คือช่วยสโลว์แถบเวลาของศัตรู การใช้งานทำได้โดยการคลิกค้างที่ตัวที่เราต้องการจะสโลว์มัน แล้วก็เพิ่มเลือดให้ฝั่งเราได้ด้วยนะ (เพิ่มน้อยมาก) แต่ก็ต้องระวังด้วย เพราะเซอร์หิ่งห้อยก็มีแถบพลังของตัวเองเหมือนกัน หมดเมื่อไหร่ ก็กลายเป็นแค่ลูกไฟโง่ๆดวงนึงเท่านั้น



          ส่วนที่เกมนี้ยังขาดอยู่แล้วอยากให้เติมที่สุด คือ ตารางรายชื่อกับธาตุของมอนเตอร์ บางตัวดูก็รู้เลยว่าธาตุอะไร  แต่บางตัวดูแทบไม่ออกว่าเป็นธาตุอะไรกันแน่ (ลองใส่ไปทุกธาตุก็ยังตีไม่เข้า) ทั้งๆที่เกมนี้ต้องพึ่งพาระบบธาตุ แต่กลับไม่มีข้อมูลธาตุแต่ละตัวของมอนเตอร์เลย เสียเปรียบสุดๆ
          การเล่นในระดับ Expert เป็นอะไรที่ท้าทายสุดๆ เพราะเกมนี้นอกจากจะเสียเปรียบเรื่องกำลังคนแล้ว ยังไม่มีอาวุธและชุดเกราะให้ใส่ด้วย อีกทั้งองค์หญิงน้อยของเราก็เลือดน้อยสุดๆ(ขนมดีๆนี่เอง)เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีม มีดีที่สกิลเป็นธาตุแสงเท่านั้น  การเจอบอสหรือมินิบอสตามฉากแต่ละครั้ง จึงจำเป็นต้องไล่เก็บเลเวล(ฟาร์ม)กันยาวๆ กว่าจะไปฉะกันได้ (เหมือนชั่วโมงการเล่นจะยาวกว่าจะจบ แต่เนื้อเรื่องก็งั้นๆ ไม่มีอะไร เสียเวลาไปกับการฟาร์มซะมากกว่า)





          สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่า ระบบเกมอาจจะยังไม่โอเคเท่าไหร่  แต่ทุกอย่างกลับถูกหักล้างด้วยภาพและเสียงที่เกมนี้นำเสนอมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ใครที่ชอบงานอาร์ตๆ ภาพวาดสวยๆ น่าจะถูกใจเป็นพิเศษครับ



วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

The Coma รีวิว



     ยองโฮ เด็กนักเรียน ม.ปลายธรรมดา คนหนึ่ง ที่เข้าไปติดในโลกของ " เดอะโคม่า " โดยบังเอิญ เมื่อเขาเก็บสร้อยเส้นหนึ่งได้   เขาตื่นขึ้นมาในอีกโลก แต่กลับโดนไล่ฆ่าโดย นักฆ่าที่ดูคล้ายกับอาจารย์ของเขาเอง  เขาได้พบกับเยซอล นักล่าผี  ซึ่งเธอน่าจะคุ้นเคยกับมิตินี้ดี  เธอได้อธิบายบางอย่างให้ยองโฮฟัง และแนะแนวทางที่จะทำให้เขาออกไปจากที่นี่ได้   แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะ เดอะโคม่าเป็นโลกเสมือน เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น ในโลกของเดอะโคม่า ก็จะส่งผลต่อโลกจริงด้วย   ในขณะที่กำลังงุนงงสับสน ปริศนาต่างๆก็กำลังเริ่มค่อยๆคลี่คลาย

     เดอะโคม่า คือโลกเสมือนที่ควบคุมโดย The Shade  ที่เป็นเหมือนวิญญาณร้าย ที่คอยล่อลวง และคอยควบคุมโลกแห่งนี้ ผู้ที่ติดอยู่ที่นี่จะมีชีวิตเสมือนฝันร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ จะส่งผลกระทบต่อโลกจริงด้วย ถ้าหากตายในโลกแห่งนี้  ตัวตนจะถูกลบไปตลอดกาล


ความต้องการของระบบ

ขั้นต่ำ: 
ระบบปฏิบัติการ: Windows XP 
หน่วยประมวลผล: Core2Duo 
หน่วยความจำ: แรม 2 GB 
กราฟิก: Any with hardware 3D acceleration 
DirectX: เวอร์ชัน 7.0 
หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 770 MB 
การ์ดเสียง: Soundblaster / equivalent 
หมายเหตุเพิ่มเติม: Earphones

แนะนำ: 
ระบบปฏิบัติการ: Windows 7 
หน่วยประมวลผล: Core2Duo or above 
หน่วยความจำ: แรม 4 GB 
กราฟิก: Nvidia 7900 / equivalent 
DirectX: เวอร์ชัน 7.0 
หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 770 MB 
การ์ดเสียง: Soundblaster / equivalent 
หมายเหตุเพิ่มเติม: Earphones

***ทีเด็ดของเกมนี้อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามและควรสนับสนุน คือ  มีภาษาไทย

มีภาษาไทยด้วย เจ๋งสุดๆ



ตัวเกมมีระบบไอเท็มและช่องเก็บของ แผนที่แบบย่อมๆ และไม่ได้เซฟอัตโนมัติ ในเกมมีที่เซฟสุดครีเอต คือ กระดานดำนั่นเอง แถมตัวเกมยังมีฉากจบได้ ตั้ง 5 แบบอีกด้วย 

ช่องเก็บของแบ่งเป็นช่องซ้ายขวา สลับด้วยการกด Tab

Save เกมกับกระดานดำ

แผนที่เขียนมือ ก็ดูคลาสสิคดี

เกมเพลย์

          ในด้านเกมเพลย์  ตัวเกมเป็นการ์ตูน 2 D เราต้องบังคับตัวละครเพื่อแก้ปริศนาในโลกของ
เดอะโคม่า เพื่อที่จะพยายามหาทางออกไปให้ได้   โดยมีอาจารย์สาวแสนสวย รับบทเป็นนักฆ่า ไล่ล่าเรา
เราต้องพยายามหลบเลี่ยง ไขปริศนาและเอาตัวรอดให้ได้  การหลบซ่อนก็คล้ายกับเกมแนว Horror ทั่วไป  ที่ประจำของเราคือตู้และห้องน้ำ แต่ก็ต้องระวังให้ดี ตู้บางตู้หรือห้องน้ำบางห้องเข้าหลบไม่ได้นะจ๊ะ ก่อนจะออกเดิน ต้องเช็คจุดหลบให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัย

เธออยู่ที่นี่เอง...เรามาสรุปวิชาเรียนวันนี้กันดีกว่านะ! 

(ประตู...เปิดไม่ออก!)
          จุดเด่นที่สุดที่ยังช่วยประคองเกมนี้ให้ยังไปรอด นั่นก็คือ กระดาษโน๊ต ที่แปะอยู่ทั่วอาคารทั้ง 3 แห่ง แต่ละโน๊ตก็จะบันทึกเรื่องราวผ่านแต่ละตัวละคร และสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนถูกบันทึกไว้ในกระดาษโน๊ต รวมทั้งเรื่องยิบย่อย อย่างเช่น เรื่องชู้สาว  หรือความไม่ลงรอยกันของผู้บริหารโรงเรียนแห่งนี้ด้วย

เรื่องราวทั้งหมด ถูกเก็บรวบรวมไว้ที่นี่ !!

          ความคิดเห็นของผู้เขียน ตัวเกมมีกลิ่นไอของเกมแนว Horror แค่ในช่วงแรก แต่ยังไม่สุด ช่วงกลางถึงท้ายๆ ความน่ากลัวจะลดลงมาก อาจจะเป็นเพราะเป็นแนวการ์ตูนและเพราะว่าเราคุ้นเคยดีแล้วกับ คิลเลอร์ครูสาวนักฆ่าหนึ่งเดียวของเรา ที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย นอกจากวิ่งไล่เราโต้งๆ แถมยังวิ่งไม่ทันเราด้วย ทำให้การหลบหลีก ง่ายมากๆ สำหรับคนที่รู้แกวเธอดีแล้ว แต่ตัวเกมก็ยังคงความหลอนไว้ได้ส่วนหนึ่ง จากเสียงประกอบ และฉากพื้นหลังที่ชวนคิดถึงโรงเรียนผีสิง  แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นมาจาก  map ทั้งเกมมีแค่ 3 map เท่านั้น ทำให้รู้สึกน่าเบื่อพอสมควร ที่ต้องวิ่งวนไปวนมาที่เดิมซ้ำๆ  ไม่แนะนำให้ซื้อหามาเล่น สำหรับใครที่ไม่ใช่แฟนบอยของเกมแนวนี้ครับ

คะแนนตามใจ : 6/10




วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Never Alone รีวิว


          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่ตอนเหนือของอลาสก้า ได้เกิดพายุหิมะที่รุนแรงและยาวนาน  นานกว่าครั้งไหน ๆ ที่เคยเกิด  วันหนึ่งหนูน้อย Nuna  จากชนเผ่า อินูอิต ออกล่าสัตว์และดูเหมือนว่าเธอจะหลงทางติดอยู่ท่ามกลางพายุนั้น
          เมื่อเธอกลับถึงหมู่บ้าน เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทั้งหมู่บ้านได้ถูกทำลายและผู้คนทั้งหมดก็หายไปด้วย เธอคิดว่านั่นต้องเป็นเพราะพายุหิมะนี้แน่ เด็กหญิงตัวน้อยจากชนเผ่าและ สุนัขจิ้งจอกสีขาวคู่ใจ ที่เชื่อว่าสามารถสื่อสารกับวิญญาณแห่งธรรมชาติได้  ทั้งสองเดินทางฝ่าพายุที่โหมกระหน่ำ เพื่อค้นหาครอบครัวของเธอและเพื่อค้นหาสาเหตุของการเกิดพายุหิมะ นิทานเรื่องนี้จะจบอย่างไร และสาเหตุของพายุหิมะคืออะไรกันแน่ ติดตามเสพได้ในเกม Never alone


ความต้องการของระบบ


    ขั้นต่ำ: 
    • ระบบปฏิบัติการ: Windows 7 
    • หน่วยประมวลผล: Intel Core 2 Duo E4500 @ 2.2GHz or AMD Athlon 64 X2 5600+ @ 2.8 GHz 
    • หน่วยความจำ: แรม 2 GB 
    • กราฟิก: GeForce 240 GT or Radeon HD 6570 
    • DirectX: เวอร์ชัน 9.0c 
    • หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 3 GB 

    แนะนำ: 
    • ระบบปฏิบัติการ: Windows 7 or newer 
    • หน่วยประมวลผล: Intel Core 2 Quad Q9550 @ 2.8 GHz or AMD Phenom II X4 955 @ 3.2 GHz 
    • หน่วยความจำ: แรม 4 GB 
    • กราฟิก: GeForce GTX 650 Ti or Radeon HD 7790 
    • DirectX: เวอร์ชัน 9.0c 
    • หน่วยบันทึกข้อมูล: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 3 GB 

*** เครื่องไม่ต้องแรง ก็เล่นได้สบายๆ หายห่วง


ด้านกราฟฟิคและเกมเพลย์

          ในส่วนของเรื่องกราฟฟิค ทำได้อย่างดีเยี่ยม ตัวละครทุกตัวรวมถึงฉากออกแบบได้ดีมาก การเคลื่อนไหวของตัวละครรวมถึงทิศทางของลมในเกมดูเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นงานศิลป์ชั้นเยี่ยม ไม่แพ้อนิเมชั่นในโรงหนังเลยทีเดียว  แถมเสียงซาวน์ประกอบฟังดูลื่นไหลเข้าถึงอารมณ์เกมได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียวเชียวล่ะ




    
          ด้านเกมเพลย์กันบ้าง ในส่วนของโหมด Single player เราจะต้องบังคับตัวละครทั้งสองตัวเพื่อแก้ปัญหาระหว่างทาง สามารถสลับบทบาทได้ด้วยการกด Q  โดยที่ทั้งสองตัวละครของเราจะมีความสามารถต่างกัน หนูน้อย Nuna นั้น จะมีอาวุธประจำกาย ชื่อว่า Bola สามารถใช้เขวี้ยง เพื่อทำลายน้ำแข็งได้  ส่วนเจ้าหมาจิ้งจอก ก็จะมีความสามารถในการไต่หน้าผาและควบคุมวิญญาณจากธรรมชาติได้

       ด้านเนื้อหาของตัวเกม ผู้พัฒนาแต่งเติมมาจากนิทานของชนเผ่า อินูอิต ที่มีตัวตนอยู่จริง เกมนี้จะสอดแทรกสารคดีวีดีโอ  เกี่ยวกับทั้งชนเผ่าและสิ่งต่างๆที่พบเห็นในเกม ทำให้รู้สึกเหมือนว่า เออเนี่ย !!
มันมีจริงๆนะ มันเป็นความเชื่อ ประเพณีที่มีอยู่จริงๆ ซึ่งแบบนี้ หาไม่ได้ในเกมอื่นนะเออ





*** สุดท้ายแล้ว เป็นเกมที่เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย ยกเว้นสตรีมีครรภ์ เพราะสตรีมีครรภ์ควรจะพักผ่อนไม่ใช่มานั่งเล่นเกม  ด้วยภาพที่ดูน่ารัก บวกกับ แนวเกมที่เข้าถึงทุกเพศ ทุกวัยอยู่แล้ว แนะนำยากให้ทุกคนได้ลอง

ใครที่สนใจ  Never Alone (Kisima Ingitchuna)  ตามลิงค์นี้ไปได้เลย ราคาเต็มอยู่ที่ 315 บาท ส่วนใครที่คิดว่ายังแพงไป  เกมนี้ลดบ่อย  80%  ขึ้นไป เหลือในราคาไม่ถึงหลักร้อยบาท รอโอกาสเหมาะๆ แล้วสอยได้เลย








สกอร์ตามใจฉัน : 8/10